Definition
Goals
Benefits
TPM 8 Pillars
TPM step-by-step
Kick-off and Model Area Phase
TPM Step-by-Step
TPM Assessment
Key Pillars and Special Topics
Maintenance Management
Public Training
In-house Training
TPM Training Package
TPM Thai articles
TPM Worldwide articles
Productivity
Others
IE Technique
Productivity Improvement
5s
Just-in-Time (JIT)
PMII Web Application
TQM
TPM Tag
Form & Checksheet
Software Development
Condition-based Maintenance Tools
Training Materials
Contact Us
OEE WORKSHOP AND ASSESSMENT
Links
Promotion and Practice Phase
Stabilization and Appling to Award
Introduction to TPM
Root Cause Analysis & Corrective Action
LCC analysis for decision making
Strategic Cost Reduction
Cost reduction technique
TPM for Manager
Practical TPM
Strategic TPM Leadership for Pillar Manager
CIMCO-CMMS
Overall Equipment Effectiveness (OEE)
TPM Train the Trainer
TPM Training & Follow-up
TPM and Corporate KPIs
Effective TPM Coordinator
Modern Maintenance Management: MMM
Maintenance Budget Planning and Control
How to Audit TPM Effectively
Strategic Production Management
Production Efficiency Improvement
Manufacturing Strategy Map & KPIs
Customized In-house Training and Workshop
EFFECTIVE TPM FACILITATOR (COORDINATOR) (NEW)
HOW TO AUDIT AM EFFECTIVELY
MAINTENANCE MANAGEMENT & SPAREPART CONTROL
OEE Workshop and Assessment
TPM FOR MANAGER (NEW)
TPM FOR SUPERVISOR
MAINTENANCE COST BUDGET PLANNING AND CONTROL
Modern Maintenance Practice
Strategic Plant Reliability & Maintenance Manageme
TPM: The Success Factors
HOW TO START TPM EFFECTIVELY
Strategic Cost Reduction
INTENSIVE 4-DAYS TPM TRAINING & FOLLOW-UP
PRACTICAL TPM
Individual Improvement (Kobestsu Kaizen)
Autonomous Maintenance (Jishu-Hozen)
Planned Maintenance
TPM-KM (TPM Knowledge Management)
Initial-Phase Management
Quality Maintenance
Office TPM
AUTONOMOUS MAINTENANCE FOR THE OEE IMPROVEMENT
INTRODUCTION TO TPM AND AUTONOMOUS MAINTENANCE
KOBETSU KAIZEN AND JISHU HOZEN
TPM PILLARS ASSESSMSNT
AUTONOMOUS MAINTENANCE
OVERALL INSPECTION
QUALITY MAINTENANCE
LCC & MP Design
Practical 5S
Effective 5Ss Facilitator
How to Audit 5Ss Fairly and Effectively
Visual Control and Poka - Yoke
Superior Working Team
Effective Meeting and Communication
Effective Problem Solving for Manager
Basic Supervisory Skill
Advanced Supervisory Skill
Multi-skill Supervisor
Traditional and New 7 QC Tools
P-M and Why-why Analysis: An Advanced Step to Zero
DOE: Design of Experiment
MSA: Measurement System Analysis
SPC: Statistical Process Control
PM: Preventive Maintenance
PREDICTIVE MAINTENANCE
DESIGN OF EXPERIMENT: THE DOE TRAINING & FOLLOW-UP
ANOVA by MINITAB & SPSS
CROSS FUNCTIONAL ALIGNMENT
การแก้ไขและป้องกันปัญหาคุณภาพในกระบวนการผลิตด้วยกา
EFFECTIVE 5S IMPLEMENTATION
EFFECTIVE PROBLEM SOLVING
P-M ANALYSIS
POKA-YOKE
TPM VISUAL CONTROL
TPM VISUAL CONTROL
INITIAL PHASE MANAGEMENT
Machine Life Cycle Costing (LCC)
Root Cause Analysis & Corrective Action
FAILURE MODE & EFFECTS ANALYSIS (FMEA)
Lean Management
TQM in Action
Easy Six Sigma
Productivity Tools and Technique
Total Energy Conservation
Bottom-up Activity
JIT
Project Management
EFFECTIVE MANAGERIAL SKILL
PRACTICAL IE FOR MANAGER
EFFECTIVE COST REDUCTION TECHNIQUES
6S AUDIT (5S EFFECTIVELY)
TPM Consulting Package
In-house Training / TPM 8 Pillars
TPM Tools and Technique
TPM Related
  TPM for Lean Factory / Lean TPM  
   


 

Book
In-house
Training & Workshop
Consulting

TPM for Lean Factory / Lean TPM

TPM 7 Waste
เหตุผลในการทำ Lean TPM
New 5S
5ส ใหม่
Instant Maintenance
การบำรุงรักษาแบบทันทีทันใดโดยเตรียมพร้อมไว้ล่วงหน้า
SMED (Single Minute Exchange of Die)
การปรับปรุงการตั้งเครื่องจักรหรือเปลี่ยนรุ่นการผลิต
Process Razing / Re-design / Re-layout
การปรับปรุง ออกแบบ และวางผังกระบวนการใหม่
Standard Work
งานมาตรฐาน
Process Variation Minimization
การลดความผันแปรในกระบวนการ
Effective Daily  Maintenance
การบำรุงรักษาประจำวันที่มีประสิทธิผล
 

TPM for Lean Factory หรือ Lean TPM หมายถึง TPM ที่มุ่งเน้นการบำรุงรักษา (การบริหาร) เครื่องจักรให้ช่วยส่งเสริมการกำจัดหรือไม่ก็ให้เกิด Waste ตามมุมมองของ Lean ขึ้นในกระบวนการผลิต ประกอบด้วยการศึกษาและปรับปรุงสิ่งต่างๆ ต่อไปนี้
TPM 7 Waste
เหตุผลในการทำ Lean TPM
1. การหยุดของเครื่องจักรที่เล็กน้อย ปานกลาง และ ยาวนาน
2. การตั้งเครื่องจักรหรือเปลี่ยนรุ่นการผลิตที่ใช้เวลานาน
3. การแก้ไขงาน การเกิดของเสีย ผลิตภัณฑ์ใช้งานไม่ได้ และอัตราการใช้ประโยชน์จากวัตถุดิบต่ำ
4. การหยุดเครื่องจักรเนื่องจากการวางแผน (หรือบริหารจัดการ)
5. การประยุกต์ใช้ 2ส ไม่สมบูรณ์
6. การผลิตมากเกินความจำเป็นเนื่องจากเครื่องจักรขนาดใหญ่
7. การปรับตั้งหรือลองเครื่องจักรในช่วงเริ่มการผลิตที่มีปัญหา

New 5S
5ส ใหม่
คือ 5ส ที่เน้นผลลัพธ์ (เกิดการปรับปรับปรุงสายการผลิต) มิใช่ 5ส ทีเน้นรูปแบบ (ทาสี ตีเส้น สวยงาม) โดย 5ส เชิงรูปแบบมักจะมีลักษณะดังต่อไปนี้
1. พนักงานจะรู้สึกว่า 5ส ไม่มีประโยชน์
2. จะเป็น 5ส ที่ทุกคนต้องทำเหมือนๆกัน ตามตัวอย่าง
3. จะเป็น 5ส ที่ตื่นตัวเฉพาะในช่วงของการรณรงค์เท่านั้น
4. พนักงานจะต่อต้าน

Instant Maintenance
การบำรุงรักษาแบบทันทีทันใดโดยเตรียมพร้อมไว้ล่วงหน้า
การทำให้เครื่องจักรเสียเป็นศูนย์ เป็นความใฝ่ฝันของทุกองค์กร แต่ไม่ใช่เรื่องง่าย และต้องใช้การแก้ปัญหาหลายส่วน ทั้งทางเทคนิคและทางพฤติกรรม  ดังนั้นเพื่อให้ทันกับปัญหาเครื่องจักรที่รุมเร้า การรอความสำเร็จเรื่องเครื่องจักรเสียเป็นศูนย์คงนานเกินไป “การบำรุงรักษาแบบทันทีทันใดโดยเตรียมพร้อมไว้ล่วงหน้า” คือเครื่องมือหนึ่งที่จะทำให้การเสียของเครื่องจักรส่งผลให้น้อยที่สุด หรือกลับมาใช้ได้อย่างรวดเร็วนั่นเอง ขั้นตอนหลักๆประกอบด้วย
ขั้นตอนที่ 1. ศึกษาเงื่อนไขหรือข้อจำกัดในปัจจุบัน
ขั้นตอนที่ 2. สรุปปัญหาของแต่ละเครื่องจักรและสายการผลิต
ขั้นตอนที่ 3. วิเคราะห์กลไกการเกิดการหยุดเล็กน้อยและสาเหตุ
ขั้นตอนที่ 4.  สร้างภาพความสัมพันธ์ระหว่างปรากฏการณ์ กลไก และสาเหตุ ให้เห็นชัดเจน
ขั้นตอนที่ 5.  ติดตั้งระบบการบำรุงรักษาแบบทันทีทันใดโดยเตรียมพร้อมไว้ล่วงหน้า
ขั้นตอนที่ 6. ส่งเสริมกิจกรรมการบำรุงรักษาด้วยตนเองของฝ่ายผลิต
ขั้นตอนที่ 7. จัดทำคู่มือ การบำรุงรักษาแบบทันทีทันใดโดยเตรียมพร้อมไว้ล่วงหน้า

Setup / Changeover Improvement (SMED)
การปรับปรุงการตั้งเครื่องจักรหรือเปลี่ยนรุ่นการผลิต
ลีน มองในมุมหนึ่งคือการผลิตแบบ Small Lot และมีความหลากหลายสูง ดังนั้นการตั้งเครื่องจักรหรือเปลี่ยนรุ่นการผลิตในจำนวนที่มากครั้ง จึงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่การทำให้การตั้งเครื่องจักรหรือเปลี่ยนรุ่นการผลิตในแต่ละครั้งใช้เวลาน้อย เป็นเรื่องที่กระทำได้ โดยการปรับปรุงดังกล่าวมีเป้าหมายสูงสุดอยู่ที่ SMED (Single Minute Exchange of Die)
ขั้นตอนที่ 1. ศึกษาความสูญเสียจากการตั้งเครื่องจักรหรือเปลี่ยนรุ่นการผลิตในปัจจุบัน
ขั้นตอนที่ 2. ตั้งทีมรณรงค์ส่งเสริมการปรับปรุงการตั้งเครื่องจักรหรือเปลี่ยนรุ่นการผลิต
ขั้นตอนที่ 3. ลงสำรวจ ณ สายการผลิตและวิเคราะห์การปฏิบัติงาน (ขั้นตอนนี้คือกระบวนการ SMED)
ขั้นตอนที่ 4. ประยุกต์ใช้แนวคิดการกำจัดความสูญเสีย
ขั้นตอนที่ 5: ถ่ายถอดแผนการปรับปรุง
ขั้นตอนที่ 6: ปฏิบัติการปรับปรุง
ขั้นตอนที่ 7: ประเมินและขยายผลไปยังพื้นที่อื่น

Process Razing / Re-design / Re-layout
การปรับปรุง ออกแบบ และวางผังกระบวนการใหม่
การหยุดของเครื่องจักรเนื่องจากการวางแผนหรือบริหารจัดการ เป็นการหยุดเครื่องจักรในกระบวนการผลิตที่ทำให้การใช้ประโยชน์สูงสุดจากเครื่องจักรไม่เกิดขึ้น แต่ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันความสูญเสียที่อาจจะมากกว่าตามมา (เช่นเครื่องจักรเสีย ผลิตมากเกินไป เป็นต้น) การวิเคราะห์ประสิทธิภาพการวางผังโรงงานและการปรับปรุงใหม่ โดยอาศัยหลักการ กลุ่มผลิตภัณฑ์ (Product Family) ใช้เครื่องจักรชุดเดียวกัน (Process Layout) ทั้งนี้เพื่อการใช้ประโยชน์ของเครื่องจักรสูงสุดโดยไม่ทำให้เกิด Waste โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Overproduction และ Planned Downtime
ขั้นตอนที่ 1 พิจารณาความสูญเสียที่ซ่อนอยู่ท่ามกลางทุกอย่างที่กำลังดำเนินไปตามแผน ด้วยเครื่องมือต่างๆต่อไปนี้
1. แผนภูมิการวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์และปริมาณ (P-Q analysis chart)
2. การวิเคราะห์เส้นทางกระบวนการผลิต (Process path analysis)
3. แผนภูมิการไหล (Flowchart)
4. แผนภูมิการะบวนการประกอบ (Assembly process chart)
ขั้นตอนที่ 2 รวบรวมและหาทางกำจัดความสูญเสียที่ปรากฏชัด
ขั้นตอนที่ 3 หาสาเหตุว่า ทำไม ทุกอย่างที่เป็นไปตามแผน จึงเกิดความสูญเสียเช่นนี้
ขั้นตอนที่ 4 พิจาณาความสูญเสียทั้ง 7 ว่าอะไรทำให้เกิดความยุ่งยากในการบริหารการผลิต
ขั้นตอนที่ 5 ดำเนินการแก้ไข ปรับปรุง
ขั้นตอนที่ 6 จัดทำ Standard Work
ขั้นตอนที่ 7 วัดผลการปรับปรุงและดำเนินการแก้ไข

Standard Work
งานมาตรฐาน
หลังจากที่เราได้สายการผลิตใหม่ ต้องละลึกไว้เสมอว่า เมื่อใดก็ตามที่เราต้องการใช้คนให้คุ้ม ใช้เครื่องมือให้คุ้ม ใช้เครื่องจักรให้คุ้ม (ในรูปของการไม่ยอมให้ว่างเว้นจากการผลิต) คุณจะต้องพบกับสายการผลิตที่เต็มไปด้วยความสูญเสีย และเพื่อที่จะหลีกเลี่ยง คุณต้องทำสิ่งเหล่านี้ให้เป็นมาตรฐาน ได้แก่ ขั้นตอนการทำงาน เวลาต่อรอบ (Cycle time) และ ปริมาณที่ห้ามเกิน (จำนวนการคงคลัง) ชึ่งทั้งหมดเราเรียกว่า “งานมาตรฐาน” และเพื่อให้งานมาตรฐานมีความสมบูรณ์จำต้องมีสามสิ่งต่อไปนี้
1. ตารางกำลังการผลิตของกระบวนการ (Table of Process Capacity)
2. เอกสารระบุเวลางานมาตรฐานของคนและเครื่องจักร (Standard Work Combination Sheet)
3.  เอกสารระบุขั้นตอนการปฏิบัติและปริมาณงานมาตรฐาน (Stand Work Sheet)
4.  เอกสารการสอนงานเพื่อให้ทุกคนปฏิบัติตามงานมาตรฐาน (Standard work Instruction Sheet)

Process Variation Minimization
การลดความผันแปรในกระบวนการ
ปัญหาจำนวนมากเกี่ยวกับการเสียของเครื่องจักรและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ เกี่ยวโยงกับความผิดปกติที่เกิดขึ้นในกระบวนการและกรรมวิธีการผลิต ทั้งนี้เป็นเพราะว่าเงื่อนไขในการทำงานแตกต่างมากมาย ตามความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ และย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เครื่องจักรของเราจะพบกับความยุ่งยากในการรักษามาตรฐาน  ในทางกลับ ถ้ากระบวนการของเราถูกกำหนดให้ใช้วัสดุเพียงชนิดเดียว ทำงานภายใต้เงื่อนไขต่างๆที่กำหนดไว้อย่างดีและไม่มีวันเปลี่ยนแปลง เหตุการณ์ทั้งหมดนี้เรียกได้ว่าเกิดความผันแปรขึ้นในกระบวนการ ดังนั้นหากสามารถลดความผันแปรในกระบวนการได้ การลดเครื่องจักรเสียและของเสียย่อมลดลง  เทคนิคหนึ่งที่นำมาใช้ คือ การหาเงื่อนไขที่เหมาะสมที่สุดในกระบวนการ (Process Optimization) ด้วยการออกแบบการทดลอง (Design of Experiment)

Effective Daily Maintenance
การบำรุงรักษาประจำวันที่มีประสิทธิผล
เครื่องจักรในปัจุบันมีความเร็วและความเป็นอัตโนมัติเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เครื่องจักรเหล่านั้นมีอัตราการเดินเครื่อง (Availability) เพิ่มขึ้นด้วย แต่ก็ยังพบความจริงอยู่เสมอว่า ยังมีเครื่องจักรที่ทันสมัย ควบคุมด้วยระบบอัตโนมัติแต่อัตราการเดินเครื่องยังต่ำอยู่ ทั้งนี้เพราะเกิดการหยุดเล็กน้อยและลุกลามไปถึง ปานกลาง และยาวนาน ตามลำดับ โดยที่เราไม่สามารถตรวจจับสิ่งบอกเหตุต่างๆได้ก่อนเลย “การบำรุงรักษาประจำวันที่มีประสิทธิผล” คือสิ่งที่ดีที่สุดในการตรวจจับความผิดปกติให้พบตั้งแต่เนิ่นๆ
ขั้นตอนที่ 1 สรุปปัญหาที่เกิดขึ้นในแต่ละสถานีงาน
ขั้นตอนที่ 2 วิเคราะห์กลไกการเกิดความเสียหาย
ขั้นตอนที่ 3 ปฏิบัติตามวิธีการคิดว่าสามารถกำจัดสาเหตุที่แท้จริงได้
ขั้นตอนที่ 4 ติดป้ายบ่งชี้การตรวจสอบประจำวันที่ตัวอุปกรณ์
ขั้นตอนที่ 5 ทำการแบ่งชิ้นส่วนหรืออะไหล่ออกเป็นสามกลุ่ม (ABC Analysis)
ขั้นตอนที่ 6 จัดการกับการคงคลังชิ้นส่วนอะไหล่
ขั้นตอนที่ 7 ปรับปรุงขั้นตอนการครวจสอบหรือเปลี่ยนชิ้นส่วน
ขั้นตอนที่ 8 หาสาเหตุที่แท้จริงของการแตกหัก เสียหาย หรือชำรุดทรุดโทรมก่อนเวลาอันควร ของชิ้นส่วน
ขั้นตอนที่ 9 อบรมการบำรุงรักษาประจำวันให้กับพนักงานอย่างทั่วถึง